วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีสารสนเทศที่อยู่ใกล้ตัวคุณ มาดูกัน




        สวัสดีครับโผมมม วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ นะครับ ว่าแท้ที่จริงแล้วคำคำนี้ หมายถึงอะไรกันแน่  ก่อนอื่นผมก็จะบอกความหมายก่อนเลยนะครับ แล้วจากนั้นก็จะยกตัวอย่างมาให้ดูกันซักหนึ่งตัวอย่าง พร้อมนะครับ !





     เริ่มกันที่ความหมายก่อนนะครับ เทคโนโลยีสารสนเทศนั้น มาจากคำสองคำ ก็คือ เทคโนโลยี กับ สารสนเทศ

เทคโนโลยีก็คือ วิธีการ กระขวนการ ขั้นตอน หรือสิ่งต่างๆที่เข้ามาทำให้ชีวิตของมนุษย์มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น พูดง่ายๆก็คือ เทคโนโลยีทำให้ชีวิตเรา ง่ายขึ้น ดีขึ้น และสะดวกมากขึ้น นั่นเอง

สารสนเทศนั้นหมายถึง ข้อมูลที่ถูกจัดการแล้ว ประมวลผลแล้ว เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง
เมื่อนำสองคำมารวมกันจึงกลายเป็น เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งมีความหมายว่า เทคนิค วิธีการ กระบวนการหรือขั้นต่างๆที่เข้ามาจัดการกับข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต นั่นเอง !

     เมื่อทราบความหมายโดยสังเขปแล้ว ผมจะหยิบยกหนึ่งตัวอย่างของ เทคโนโลยีสารสนเทศนี้มาให้ดูกัน นั่นก็คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค นั่นเอง เจ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยู๋ใกล้ตัวเรามากเลยทีเดียว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า มันถูกจัดเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย

ทำไมโน้ตบุ้คถึงเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

     ก็เพราะว่าโน้ตบุ้คมีความสามารถในการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพได้ในสมัยนี้ เช่น

การสร้างข้อมูล โน้ตบุ้คสามารถให้ผู้ใช้สร้างข้อมูลเองได้ผ่านโปรแกรมต่างๆ ที่มีมาให้ เป็นการสร้างข้อมูลที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถทำเองได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สร้างข้อมูลที่เป็นของตัวเองได้

การรับข้อมูล โน้ตบุ้คสามารถรับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ เข้ามาและประมวลผลเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับทราบข้อมูลนั้นๆ ตามต้องการ โดยทุกวันนี้เรารับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในรอบวันโดยผ่านโน้ตบุ้ค เช่น เหตุการณ์บ้านเมือง การรับข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน การรับข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น ราคาทอง เป็นต้น

การส่งข้อมูล โน้ตบุ้คสามารถส่งข้อมูลที่ผู้ใช้มีไปให้ผู้อื่นรับรู้ร่วมกันได้ เป็นการกระจายแหล่งข้อมูลหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ผู้ใช้มีต่อสาธารณะ เช่นการส่งงานให้ลูกค้า การเสนองานต่างๆ ข้อมูลงานวิจัย หรือผลสำรวจต่างๆ ก็สามารถเผยแพร่ได้ และเป็นการง่ายอีกด้วยหากข้อมูลที่เราส่งต่อให้คนอื่นนั้น มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก ทำให้ข้อมูลนั้นมีความทันสมัยตลอดเวลา

การจัดเก็บข้อมูล โน้ตบุ้คสามารถจัดเก็บข้อมูลที่ผู้ใช้นำเข้ามาในเครื่องได้อย่างมาก สามารถเก็บข้อมูล งาน ต่างๆ ไว้ได้มากมายและแม่นยำ ผิดพลาดน้อยมาก โน้ตบุ้ครุ่นใหม่ๆ ในสมัยนี้ จะมีพื้นที่ให้เก็บข้อมูลไว้ได้เยอะมากจนแทบไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมเพื่อจัดเก็บข้อมูลเลย โน้ตบุ้คจึงเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจเรา หากมีข้อมูลอะไรที่สำคัญอยากเก็บไว้ ก็เก็บไว้ได้ไม่ต้องกลัวหาย และเมื่อเรียกข้อมูลขึ้นมาเมื่อไร ก็มาครบ ไม่มีตกหล่นแม้แต่น้อย

การสำรองข้อมูล โน้ตบุ้คมีระบบการสำรองข้อมูลไว้ เผื่อในกรณีที่การจัดเก็บข้อมูลแบบปกตินั้น เกิดความผิดพลาด ทำให้ข้อมูลที่ส่งออกไปภายนอกเกิดความเสียหาย หรือข้อมูลในเครื่องอาจจะหายไป ก็ยังมีระบบ Back up File อยู่ เพื่อทำการกู้คืนไฟล์ที่สูญหายไป

การติดต่อสื่อสาร โน้ตบุ้คยังเป็นตัวกลางที่ทำให้เราได้คุยกับใครได้มากมายผ่าน Software ต่างๆ เช่น Skype  MSN เป็นต้น โดยไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แค่นั่งอยู่หน้าโน้ตบุ้คก็สามารถติดต่อสื่อสารหรือคุยงาน คุยธุรกิจกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     จากข้อมูลที่บอกนั้น จะเห็นได้ว่า โน้ตบุ้คเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดี ง่าย และมีประโยชน์มากเลยทีเดียว สามารถจัดการสิ่งต่างๆ ให้เราได้มากมาย โดยที่บางครั้งเราไม่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการกับข้อมูลต่างๆ ที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวัน ให้มีความง่าย สะดวก กะทัดรัด และเหมาะกับการนำมาใช้ได้ทันที


ผมมีประวัติเกี่ยวกับโน้ตบุ้คคร่าวๆ มาให้ดูกันนะครับ
โน๊ตบุ๊คตัวแรกของโลกที่บันทึกไว้ จริงๆ เป็นเพียงการเขียนหรือจินตนาการคอมพิวเตอร์ที่พกพาได้ เกิดในปี 1970 ก็ราวๆ พ.ศ. 2513 เป็นเพียงจินตนาการตั้งแต่ปี 1968 โดย Alan Kay ที่ Xerox PARC ซึ่งตั้งชื่อไว้ว่า "Dynabook"  
การผลิตที่เป็นเรื่องเป็นราวหรือจะทำเป็นการค้า มาเกิดในปี 2516 โดยใช้ Palm Processor คำว่า Palm มาจากคำว่า Put All Logic In Microcode เป็นโครงการที่คิดค้นของ IBM และต่อมาก็ได้พัฒนามากันเรื่อยๆ จนสามารถประมวลผลอะไรต่อมิอะไรได้มากมายมหาศาลนัก ทั้งรับข้อมูล จัดเก็บ และส่งต่อ ทำได้สารพัดเลยทีเดียว





ข้อดีของเทคโนโลยีสารสนเทศชิ้นนี้นะครับ
     ๑ เป็นเทคโนโลยีที่อยู๋ใกล้ตัว (ถ้าเป็นในเมืองก็จะมีกันเกือบทุกบ้าน)
     ๒ สามารถจัดการข้อมูลได้หลากหลายวิธี ผ่านโปรแกรมต่างๆ
     ๓ สามารถรับข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้โดยง่าย
     ๔ รับข้อมูล ประมวลผล และส่งต่อให้กับคนอื่นๆได้
     ๕ เก็บข้อมูลได้เป็นเวลานาน

ข้อเสีย
     ๑ โน้ตบุ้คแต่ละเครื่องนั้น มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ไม่เท่ากัน ทำให้รุ่นที่ใหม่กว่าผลิตออกมาเรื่อยๆ และเครื่องที่มีอยู่ ไม่นานก็จะตกรุ่น ทำให้รับข้อมูลบางอย่างได้ดีไม่เท่ากับรุ่นใหม่
     ๒ การจะรับข้อมูลข่าวสารให้ได้กว้างมากขึ้นนั้น จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
     ๓ ไม่สะดวกพกพาเท่ากับ ไอแพดหรือไอโฟน

     โน้ตบุ้คนับเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคดิจิตอลนี้ และในอนาคตก็คาดว่าน่าจะยังได้รับความนิยมอยู่ แต่นานไปก็อาจมีเทคโนโลยีสารสนเทศตัวใหม่ๆเข้ามาแทนที่ ตัวที่ง่ายกว่า สะดวกกว่า ทำอะไรได้มากกว่า ก็อย่างว่านะครับ เทคโนโลยีมันไม่หยุดนิ่ง พัฒนาไปเรื่อยๆ ลองตามเทคโนโลยีดูนะครับ จะได้รู้ว่าสิ่งไหนเป็นประโยชน์กับเรา จะได้นำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆของเรา นะครับ


















วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แหล่งเรียนรู้ ดูเหมือนไกล แต่ใกล้นิดเดียว


         สวัสดีคร้าบบบ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมเกิดนึกถึงคำว่า แหล่งเรียนรู้ ขึ้นมา ผมเลยจะมาเล่าสู่กันฟังถึงแหล่งเรียนรู้ที่หนึ่งที่ผมเคยไปมา นั่นก็คือ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) 



          ที่แห่งนี้นะครับ บอกตรงๆเลยว่า ผมไม่รู้จักมาก่อนทั้งๆ ที่ศูนย์ฯนี้อยู่ไม่ไกลจากที่ที่ผมเรียนอยู่เลย มีโอกาสได้มารู้จักก็ตอนที่อ.มอบหมายให้ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ตามสถานที่ต่างๆ จึงได้มารู้จักกันในที่สุด 

          ต่อไปผมจะบอกถึงประวัติความเป็นมาของศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) นี้นะครับ 

          เนื่องในวาระโอกาสที่ประเทศไทยจะจัดให้มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปี ของกรุง รัตนโกสินทร์ ในเดือนเมษายน 2525 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีความประสงค์จะสร้างถาวรวัตถุเป็นอนุสรณ์และมอบให้เป็นของ ขวัญแก่ประเทศไทยในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ คณะรัฐมนตรีในสมัย ฯพณฯ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้พิจารณาโครงการต่าง ๆ ที่มีผู้เสนอหลายโครงการด้วยกัน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างศูนย์เยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน ของชาติ

โครงการระยะแรก รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 1,000 ล้านเยน สำหรับการ ก่อสร้างในรายการข้อที่ 1 และอัฒจันทร์บางส่วนของสนามกีฬาใหญ่ เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2523 แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2523 

โครงการระยะที่สอง รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 1,900 ล้านเยน สำหรับการ ก่อสร้างในรายการที่ 2 - 7 ได้เริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2523 แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2524 รวมโครงการทั้งสองระยะ รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติเงินช่วยเหลือเป็นเงินทั้งหมด 2,900 ล้านเยน ประมาณ 252 ล้านบาท กรุงเทพมหานครได้รับมอบงานก่อสร้างจากบริษัท โอบายาชิ งูมิ จำกัด เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2524 โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้รับมอบ รวมงบประมาณการ ก่อสร้างศูนย์เยาวชนแห่งนี้ ทั้งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นและเงินงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านบาทเศษ กรุงเทพมหานครได้ตั้งชื่อศูนย์เยาวชนแห่งใหม่นี้ว่า “ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น)
          ที่ศูนย์ฯนี้นะครับ เป็นแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กในช่วงวัยเรียน ที่ศูนย์นี้มีทั้งกิจกรรมและวิชาการเปิดสอนครับ เช่น คณิตศาสตร์ ศิลปะ ฯลฯ และก็ยังมีด้านของกีฬาตามความสนใจมากมายเลย เช่น
กระบี่กระบอง เคนโด ตะกร้อ เทนนิส เทควันโด เทเบิลเทนนิส บาสเกตบอล แบดมินตัน เปตอง ฟุตบอล เพาะกาย มวยไทย มวยสากล ยกน้ำหนัก ยูโด โยคะ ลีลาศ ว่ายน้ำ สควอช แอโรบิก ไอคิโดนันทนาการ: คหกรรม ขับร้องเพลง (ไทย-สากล) ดนตรีไทย (ขิม, รวมวง) ดนตรีสากล (กีตาร์โปร่ง กีตาร์เบส , กลอง, รวมวงไวโอลิน, เปียโน) นาฏศิลป์ไทย, นาฏศิลป์สากล (แจ๊ส, บัลเลต์) ภาษาอังกฤษ ศิลปะ (วาดภาพระบายสี, เทคนิคสีน้ำ, หัตถศิลป์)



ซึ่งกีฬาและวิชาการที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น สามารถมาเรียนเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ ไม่มีชั่วโมงเรียน ไม่จำกัดเวลาเรียน ยืดหยุ่นเหมาะสำหรับผู้มีเวลาน้อย ว่างเมื่อไรก็สามารถไปได้ทุกเมื่อ 



                                                                                                                                                                                    สระว่ายน้ำ : ขนาดมาตรฐาน 25 x 50 เมตร


หากใครที่ไปเรียนนะครับ ทั้งทางด้านวิชาการหรือด้านกีฬา ที่นี่จะสอนจนมีความรู้ สามารถนำไปใช้ได้ดีเลยทีเดียว หากใครไม่เก่งเลข ก็มาเรียนเพิ่มจากที่นี่ ก็อาจจะเก่งเลขมากขึ้นก็ได้ หรือใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ก็มาฝึกกับครูสอนที่นี่ ก็จะว่ายเป็นได้ในไม่ช้า เรียกได้ว่า เป็นสถานที่เพิ่มพูนความรู้ด้านต่างๆที่นอกเหนือจากห้องเรียนปกติ

          หากมีเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะไปเยี่ยมชมหรือไปเล่นกีฬานะครับ สถานที่ตั้งของศูนย์อยู่ที่นี่เลยครับ (อาจจะได้เจอผมที่ศูนย์ฯก็ได้นะครับ ^^)

สถานที่ตั้ง : ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
รถประจำทางที่ผ่าน : 12, 13, 24, 36, 36ก, 54, 69, 73, 73ก,168, ปอ.168, ปอ.171, ปอ.514, ปอ.534, ปอพ.4
โทรศัพท์กลาง : 0 2245 4743-7
ผู้อำนวยการศูนย์: 0 2245 4749
กลุ่มงานธุรการแและบริหารงานทั่วไป: 24,56
กลุ่มงานกิจกรรมและการกีฬา: 32,33
กลุ่มงานการคลัง: 25,57
กลุ่มงานวิชาการ แผนงาน และประชาสัมพันธ์ : 23,54

แผนที่แสดงสถานที่ตั้ง :